top of page

Programme Note

Carl Reinecke

Sonata for Flute and Piano, Op. 167 "Undine"

       คาว ไรเนคเคอร์ (Carl Reinecke) คีตกวี วาทยกร และนักเปียโนชาวเยอรมัน พ่อของเขาเป็นครูสอนดนตรีซึ่งทำให้เขาได้เรียนดนตรีตั้งแต่อายุยังน้อย ไรเนคเคอร์เริ่มประพันธ์เพลงตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และได้ทำการแสดงเปียโนต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 12 ปี เขาได้เป็นผู้อำนวยการเพลงครั้งแรกที่ บาร์เมน (Barmen) และยังคงทำการออกทัวร์คอนเสิร์ตในที่ต่างๆ

       ไรเนคเคอร์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักดนตรีที่มีอิทธิพลและหลากหลายที่สุดในยุคสมัยของเขา หลังจากเกษียณอายุแล้วเขาได้ทุ่มเทเวลาในการแต่งเพลงและมีผลงานที่ตีพิมพ์เกือบสามร้อยฉบับ เขาประพันธ์เพลงเปียโนจำนวนมากในรูปแบบต่างๆ นอกจากนั้นยังมีส่วนร่วมในวรรณกรรมดนตรี และ อูนดีน โซนาต้า (Undine Sonata) ถือเป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของ ไรเนคเคอร์

       อุนดีน โซนาต้า (Sonata for Flute and Piano, Op.167 “Undine”)

อุนดีน โซนาต้า (Undine Sonata) มาจากนิทานรักโรแมนติกของเยอรมัน เขียนโดย เฟรดดริก เดอ ลา โมท โฟค (Friedrich de la Motte Fouque) เป็นเรื่องราวความรักระหว่างพรายน้ำกับมนุษย์

       ในบทประพันธ์ท่อนที่1 (Allegro in E minor) มีธีม (Theme) ที่แข็งแรง ใช้ส่วนประกอบไม่มากแต่มีการพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ตัวทำนองหลักให้ความรู้สึกเหมือนคลื่น

       บทประพันธ์ท่อนที่2 (Intermezzo Allegretto Vivace) มี 2 ธีม โดยธีมแรกอยู่ในบันไดเสียง บี ไมเนอร์ ซึ่งเล่นทั้งหมด 3 ครั้ง และธีมที่ 2 อยู่ในบันไดเสียง บี เมเจอร์ ซึ่งในท่อนนี้มี 2 ธีมนี้ให้ความรู้สึกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

       บทประพันธ์ท่อนที่3 (Andante tranquillo) เป็นท่อนช้าที่แสดงถึงความสงบแต่มีการสอดแทรกด้วย Molto vivace

       ในท่อนสุดท้ายท่อนที่4 (Allegro molto agitato ed appassionato, quasi Presto) เป็นท่อนที่มีแรงขับเคลื่อไปข้างหน้า และมีธีมในท่อน2 กลับมาอีกครั้ง เป็นท่อนที่แสดงให้เห็นถึงตอนจบของเรื่อง คือการทรยศต่อคนรัก ความโศกเศร้า และเสียใจ

Tania Leon

Alma

       ทาเนียร์ ลีออน (Tania León) นักประพันธ์ และวาทยกรชาวคิวบา เธอยังเป็นที่ยอมรับในฐานะนักศึกษาศาสตร์และที่ปรึกษาให้กับองค์กรศิลปะ บทประพันธ์ของเธอมีความเป็นเอกลักษณ์และซับซ้อน

       ในปีค.ศ.1980 เป็นช่วงที่ลีออนสร้างสรรค์ผลงานออกมามากมาย ซึ่งผลงานของเธอสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างดนตรีหลากหลายวัฒนธรรม ต่อมาในปีค.ศ.1993 ถึงค.ศ.1997 เป็นที่ปรึกษาให้กับนิวยอร์ก ฟีลฮาร์โมนิก (New York Philharmonic) และเคยดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านดนตรีละติน-อเมริกันในงานอเมริกัน คอมโพเซอร์ ออเครสตรา (American Composer Orchestra)

       อัลมา (Alma) ในภาษาสเปนหมายถึง วิญญาณหรือจิตวิญญาณ ประพันธ์ขึ้นสำหรับฟลู้ทและเปียโน อัลมามีท่วงทำนองที่สวยงาม ฟลู้ทเปรียบเสมือนนกที่ร้องเพลงอยู่ในป่า มีการเคลื่อนไหว เสียงของเปียโนเปรียบเสมือนเสียงเสียดสีกันของใบไม้ที่อยู่บนต้นไม้ บทเพลงจึงมีการหยอกล้อกันระหว่าง2เครื่องดนตรี บทเพลงอยู่ในช่วงเวลาของความสุขเหมือนนกในฤดูใบไม้ผลิ และในตอนจบเป็นช่วงเวลาแห่งการหลับไหล

Robert Muczynski

Sonata for Flute and Piano, Op.14

       โรเบิร์ต มูชินสกี (Robert Muczynski) นักเปียโนและนักประพันธ์เพลงชาวอเมริกา เป็นหนึ่งในนักประพันธ์เพลงที่มีชื่อเสียงในยุคนีโอ-คลาสสิค (Neo-Classic) เขาทำงานให้กับองค์กรที่เกี่ยวกับวัฒนธรม

       ในยุคสมัยของมูชินสกี ดนตรีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือรุปแบบของนีโอ-คลาสสิค (Neo-Classic) ซึ่งเขาไม่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีที่ได้เป็นกระแสอยู่ในยุคนั้น ลักษณะการประพันธ์ที่โดดเด่นของเขามีรูปแบบที่ชัดเจน กระชับ มีความตรงไปตรงมา เป็นรูปธรรม มีการถาม-ตอบ ทำให้เขามีความโดดเด่นและชัดเจนในแบบของตนเอง

       โซนาตา สำหรับฟลู้ทและเปียโน โอปุส 14 (Sonata for Flute and Piano, Op.14) เป็นบทประพันธ์ที่ไม่ใช่จังหวะ และทำนองแบบดั้งเดิม มีการสร้างเสียงที่มันสมัยมากขึ้นในยุคนั้น ให้ความรู้สึกที่มีชีวิตชีวาและมีความซับซ้อน ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ท่อน ในการแสดงครั้งนี้จะนำมาแสดง 1 ท่อน คือท่อน1 (Allegro deciso) 

       ในท่อน1 (Allegro deciso) ทำนองมีการเคลื่อนไหวด้วยความกระปรี้กระเปร่า จังหวะยกเป็นความท้าทายสำหรับการรวมกันของฟลู้ทและเปียโน

Kaija Saariaho

Noa Noa

       ไคอา ซาริอาโฮ (Kaija Saariaho) เป็นสมาชิคคนสำคัญของกลุ่มนักประพันธ์ชาวฟินแลนด์ เธอศึกษาการประพันธ์เพลงอยู่ที่เฮลซินกิ (Helsinki) ไฟล์เบิร์ก (Freiburg) และปารีส (Paris) การศึกษาและการวิจัยของเธอที่ IRCAM มีอิทธิพลต่อดนตรีของเธอ และลักษณะพิเศษเฉพาะที่เต็มไปด้วยความหรูหราและลึกลับ ซึ่งเธอมักจะสร้างสรรค์ด้วยการบรรเลงร่วมกันระหว่างดนตรีสดและอิเล็กซ์ทรอนิค

       ซาริอาโฮ ได้รับรางวัลในการประพันธ์ต่างๆมากมาย ในปีค.ศ. 2015 เธอเป็นผู้ตัดสินรางวัล โทรุ ทเคมิสสึ คอมโพซิชั่น อวอร์ด (Toru Takemitsu Composition Award) เธอยังคงร่วมมือกับการแสดงต่างๆ อาทิเช่นในปีค.ศ. 2016 อุปรากร ณ ประเทศฮอนแลนด์เป็นผลงานของเธอร่วมกับปีเตอร์ เซลลาส์ (Peter Sellars) และในปีเดียวกันนั้นอุปรากรเรื่องแรกของเธอได้ถูกนำเสนอในนิวยอร์ก เดอะ พาร์ค อเวนิว อาร์มอรี (The Park Avenue Armory) และ นิวยอร์ก ฟีลฮาร์โมนิก (New York Philharmonic) นำเสนอบทประพันธ์ของเธอสำหรับออเครสตราและภาพประกอบในเดือนตุลาคม ปัจจุบันเธอกำลังประพันธ์อุปรากรเพื่อเปิดตัวในปีค.ศ.2020

       โนอา โนอา (Noa Noa) ชื่อบทประพันธ์มาจากชุดผลงานไม้แกะสลักของ พอล โกแกงค์ (Paul Gauguin) ช่วงที่เขาเดินทางกลับมาที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส หลังจากเดินทางไปยังเกาะตาฮิติในปีค.ศ.1893 ผลงานชุดนี้สะท้อนถึงมุมมองที่พบระหว่างการเดินทางซึ่งเป็นรูปแบบประติมากรรมที่เกี่ยวกับมหาสมุทร ไม้แกะสลักเป็นภาพประกอบของหนังสือชื่อ โนอา โนอา (กลิ่นหอมในเกาะตาฮิติ) มีพื้นฐานมาจากบันทึกประจำวันของโกแกงค์ และยังเขียนร่วมกับชาร์ล มอริส (Charles Morice) เกี่ยวกับประสบการณ์บนเกาะตาฮิติ ซึ่งคำพูดในบทประพันธ์นำมาจากบันทึกการเดินทางของเขา

       ในบทประพันธ์นี้นักฟลู้ทไม่เพียงแต่เล่นฟลู้ทเท่านั้น แต่ยังจะต้องมีการร้อง เสียงกระซิบ เข้าไปในฟลู้ท และมีการใช้เทคนิคสมัยใหม่มาใช้ในบทประพันธ์ ในส่วนของอิเล็กซ์ทรอนิคมีการบันทึกเสียงฟลู้ทล่วงหน้าไว้เพื่อนำมาใช้ในการแสงสด

bottom of page